คดีครอบครัว
 
 

COMPANY LAW SECTION

Tel : (662) 168 7001 (-3)

Within Thailand, (02) 168 7001 (-3)

Fax: (662) 168 7004

Email: info@lawfirm.in.th

More About Chaninat and Leeds

  ประเภทกฎหมาย
  แนวคำพิพากษา
  ข่าวกฎหมายใหม่
  วีดีโอ
  เกี่ยวกับเรา
  ร่วมงานกับเรา
  ติดต่อเรา
 

 

 
Home  /  Contact print symbol Print Page



ห้างหุ้นส่วน (Partnerships)

ห้างหุ้นส่วน  ตามมาตรา  1012 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์บัญญัติว่า”อันว่าสัญญาจัดตั้งห้างหุ้นส่วนนั้น คือสัญญาซึ่งบุคคล ตั้งแต่สองคนขึ้นไป ตกลงเข้ากัน เพื่อกระทำกิจการร่วมกันด้วยประสงค์จะแบ่งกำไรอันจะพึงได้แต่กิจการที่ทำนั้น" ดังนั้นตามกฎหมายห้างหุ้นส่วนจะต้องมีลักษณะสำคัญดังนี้
1.    บุคคลตั้งแต่สองคนขึ้นไป จะนำทุนมาเข้าหุ้นกัน (ทุนที่จะนำมาลง ได้แก่ เงินสด ทรัพย์สินอย่างอื่น หรือ แรงงาน คือ ใช้กำลัง สติปัญญา ความคิดแรงกายแทน)
2.  ตกลงเข้ากัน คือ บุคคลที่จะเข้าร่วมประกอบกิจการได้ทำสัญญาตกลงกันว่าจะประกอบการค้าร่วมกัน การตกลงกันนั้น จะต้องมีการแสดง เจตนาโดยแจ้งชัด อาจจะทำเป็นสัญญาปากเปล่า หรือ ลายลักษณ์อักษร ก็ได้ว่าจะเข้าเป็น "ห้างหุ้นส่วน"                
3.  เพื่อการทำกิจกรรมร่วมกัน คือคู่สัญญา จะต้องมาดำเนินกิจการเพื่อทำการตามที่ได้ตกลงไว้ให้บรรลุวัตถุประสงค์
4. เพื่อประสงค์กำไร   คือ เป็นการตกลงใจทำงาน โดยมีจุดหมายปลายทางเพื่อผลกำไร อันได้เกิดจากกิจการที่ทำนั้น และผลกำไรจะได้นำมาแบ่งกัน ระหว่างผู้เป็นหุ้นส่วนด้วยกัน  

ประเภทห้างหุ้นส่วน
ห้างหุ้นส่วนบางออก เป็น 3 ประเภท

  1. ห้างหุ้นส่วนสามัญ
  2. ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล
  3. ห้างหุ้นส่วนจำกัด

1. ห้างหุ้นส่วนสามัญ    คือ มีหุ้นส่วน สองคนขึ้นไป  ผู้เป็นหุ้นส่วนจะอยู่ฐานะผู้จัดการ และทุกคนรับผิดชอบในหนี้สินไม่จำกัดจำนวน ตามกฎหมายเรียกว่า ผู้เป็นหุ้นส่วนสามัญ   และเรียกผู้ที่รับผิดชอบการบริหารงานของห้างว่า”หุ้นส่วนผู้จัดการ" 

ข้อดีของห้างหุ้นส่วนสามัญ
1.  การจัดตั้งกระทำได้ง่าย
2.  มีการร่วมทุนและความรู้ความสามารถจากผู้เป็นหุ้นส่วน
3.  สามารถขยายกิจการด้วยการเพิ่มทุนหรือรับหุ้นส่วนเพิ่มได้
                               
ข้อเสียของห้างหุ้นส่วนสามัญ
1.  เมื่อห้างมีการขาดทุนและเลิกกิจการ ผู้เป็นหุ้นส่วนที่มีฐานะการเงินดีจะถูกเรียกร้องให้ชำระหนี้ของห้างทั้งหมดได้
2.  ความคล่องตัวและความเป็นอิสระ ในการบริหารงานลดลง
3.  การเสียภาษี เป็นการเสียแบบบุคคลธรรมดา
4.  ผู้เป็นหุ้นส่วนต้องรับผิดชอบต่อเจ้าหนี้ร่วมกันโดย เจ้าหนี้ อาจจะเรียกให้หุ้นส่วนคนใดชำระหนี้ให้จนครบจำนวนย่อมได้
  
2.  ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล   การประกอบการแบบห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล มีลักษณะเหมือนกับห้างหุ้นส่วนสามัญทุกประการ แต่มีข้อแตกต่างกัน   คือการนำห้างหุ้นส่วนสามัญไปจดทะเบียนต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ มีผลให้ห้างหุ้นส่วนนั้นเป็นนิติบุคคล แยกต่างหากจากห้างหุ้นส่วน     

ข้อดีของห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล
1.  การเสียภาษีเป็นการเสียแบบนิติบุคคล
2.   ได้รับความเชื่อถือจากบุคคลภายนอกมากขึ้น เนื่องจากมีผู้สอบบัญชี
3.  มีการร่วมลงทุนและความรู้ของหุ้นส่วน
4.  เสียภาษี แบบนิติบุคคล

3. ห้างหุ้นส่วนจำกัด การประกอบการในลักษณะนี้จะต้องจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล และต้องใส่คำว่า ห้างหุ้นส่วนจำกัด" ไว้หน้าชื่อห้างเสมอไปด้วย โดยมีผู้เป็นหุ้นส่วน ตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป แบ่งหุ้นส่วนออกเป็น 2 ลักษณะคือ
1.  ประเภทจำกัดความรับผิดชอบ    จำกัดรับผิดชอบในหนี้สินที่เกิดขึ้น
2. ประเภทไม่จำกัดความรับผิดชอบ   การไม่จำกัดความรับผิดชอบ หมายถึง ไม่จำกัดหนี้สินที่เกิดขึ้นกรณี ห้างหุ้นส่วนจำกัดเลิกกิจการ    ตามกฎหมายให้สิทธิ์แก่เจ้าหนี้ ของกิจการมีสิทธิ์เรียกร้องให้นำทรัพย์สินส่วนตัวของหุ้นส่วนไม่จำกัดความรับผิดชอบในส่วนที่นอกเหนือจากเงินที่ลงทุนในกิจการ มาชำระหนี้จนครบ 

ข้อดีของห้างหุ้นส่วนจำกัด
1.  รวบรวมเงินทุน ความรู้ความสามารถจากผู้เป็นหุ้นส่วนได้มากขึ้น
2.  ผู้มีเงินทุนยินดีจะลงทุนร่วมด้วย โดยเป็นหุ้นส่วนประเภทจำกัดความรับผิด ทำให้พ้นภาระรับผิดชอบในหนี้สินแบบลูกหนี้ร่วม
3.  สามารถจะระดมบุคคลที่มีความเชียวชาญในสาขาใด ๆ มาเป็นหุ้นส่วนประเภทจำกัดความรับผิดได้
4.  ได้รับความเชื่อถือจากบุคคลภายนอกมากขึ้น
5.  เสียภาษีเงินได้แบบนิติบุคคล

ข้อเสียของห้างหุ้นส่วนจำกัด
1.  การจัดตั้งมีความยุ่งยากมากขึ้น
2.  หุ้นส่วนประเภทไม่จำกัดความรับผิดชอบ ต้องรับภาระหนี้สินไม่จำกัดจำนวน
3.  เมื่อมีผู้เป็นหุ้นส่วนคนใดตาย ล้มละลาย หรือลาออก ห้างหุ้นส่วนนั้นจะต้องเลิกกิจการและชำรบัญชีให้เรียบร้อย